ในหมู่มุสลิมมีการขัดแย้งกันมากมาย หลากหลายเหตุผล หลากหลายหลักฐาน โดยการฟัตวาแยกเป็นฝ่ายๆ ดังนี้
1. เป็นอุลามาอ์ในแนวท่านอิหม่ามซาฟีอี จะวินิจฉัยตรงๆ ถ้าหนังหรือกระดูกที่นำมาผลิตเจลาติน มาจากสัตว์ที่ฮาลาลบริโภค เจลาตินก็ฮาลาล
2. เป็นอุลามาอ์จากอเมริการเหนือ รวมทั้งจากยุโรป ดร.ยูซุฟ อัลกอรฎอวี(ประธานอุลามาอ์โลก) วินิจฉัยว่า เจลาตินทุกชนิดเป็นสารที่ผ่านการแปรสภาพ หรือสลายตัว (อิสทิฮาละห์) ไปแล้วจากต้นกำเนิดเดิม ถือว่าไม่เป็นนายิส และฮาลาลในการบริโภค (แม้จะมาสัตว์ที่ตายเองหรือสัตว์นายิส เช่น สุกรเป็นต้น) ซึ่งขัดแย้งกับฝ่ายที่ 1
3. ความเห็นของท่านศาตราจารย์เชคอับดุสซตาร ซาอีด ได้ฟัตวาว่า ถ้าสัตว์ถูกเชือดโดยอะฮ์ลุลกีตาบ หรือไม่ทราบผู้เชือด เนื้อมันก็ฮาลาล เจลาตินก็ฮาลาลด้วย แต่ถ้าถูกฆ่าโดยวิธีที่อิสลามไม่อนุญาต เนื้อมันไม่ฮาลาล เจลาตินก็ไม่ฮาลาลด้วย
4. ท่านเชกเด ซาอี ฟัตวาว่า เจลาตินที่ได้มาจากสัตว์ที่อิสลามอนุมัติให้บริโภคเนื่อได้ เช่น โค กระบือ แพะ แกะ ฯลฯ นั้นฮาลาล ถึงแม้ว่าจะได้รับการฆ่าตามหลักการของศาสนาอิสลาม เพราะยึดหลักที่ว่า กระดูก เขา ฟัน เล็บ ของมัน เป็นสิ่งฎอเฮ็ร (สะอาดไม่ใช่นายิส) โดยสรุปฝ่ายนี้ไม่รับเจลาตินจากสุกร หรือสัตว์อื่นๆ ที่อิสลามห้ามบริโภคเนื้อมัน
เลือกเจลาตินคุณภาพ เลือกเจลาตินฮาลาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น